ตร.สัน กำแพงตั้งกรรมการพร้อมสักขีพยาน เปิดตู้เซฟปริศนาที่พบถูกทิ้งไว้หลายวัน ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ปรากฏว่าข้างในมีแต่ปูนซีเมนต์ คาดคนมือบอนเทปูนหล่อนำมาทิ้ง อาจต้องการกลั่นแกล้งสร้างความวุ่นวาย สั่งหาตัวมาสอบ...
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ทาง พ.ต.อ.อนุรัตน์ กิจประเสริฐ ผกก.สภ. สันกำแพง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก นายนิคม ยะคำ กำนันตำบลออนใต้ ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง เชียงใหม่ ว่าได้มีคนร้ายนำตู้เซฟนิรภัยสีเทา ยี่ห้อ TAIYO ขนาดกว้างประมาณ 30 ซม.สูงประมาณ 40 ซม. ยาวประมาณ 50 ซม. มาทิ้งที่ในป่าอ่างน้ำห้วยลาน บ้านห้วยลาน หมู่ 8 ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง
ต่อ มา พ.ต.อ.อนุรัตน์ กิจประเสริฐ ผกก. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภิชณุ แก้วยอด สว.ป. ร.ต.ท.สุเทพ มูลทสิน รอง สว.สส. ไปตรวจสอบ พบตู้เซฟนิรภัยดังกล่าววางอยู่ในป่าสภาพยังสมบูรณ์ สงสัยว่าคนร้ายขโมยมาแต่เปิดไม่ออกเพราะไม่รู้รหัสจึงนำมาทิ้งไว้ ตำรวจจึงนำมาเก็บไว้ในห้องขัง สภ.สันกำแพง โดยต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นายจึงยกขึ้นได้ เพราะหนักมาก จากนั้น พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ. เชียงใหม่ ได้เดินทางมาดู พร้อมกับสั่งให้เปิดตู้เซฟปริศนาดังกล่าว เนื่องจากผ่านไปหลายวันยังไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มี.ค. พ.ต.ท.บุญรักษ์ คำประพันธ์ รอง ผกก.สส. รักษาการแทน ผกก.สภ.สันกำแพง เชียงใหม่ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วม มี นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอาวุโสอำเภอสันกำแพง พ.ต.ท.เดช จูเมา รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.มนตรี ยศบุตร รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ภิชณุ แก้วยอด สว.ป. นายนิคม ยะคำ กำนันตำบลออนใต้ อ.สันกำแพง ผู้พบตู้เซฟนิรภัยเป็นคนแรก นายศักดิ์ชัย แซ่ลี้ ช่างผู้ชำนาญเรื่องตู้เซฟ และมีพยานเป็นสื่อมวลชนทุกสาขา เพื่อเปิดตู้เซฟดังกล่าว
จาก นั้น ช่างใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ใช้อุปกรณ์และเครื่องเจาะ จึงสามารถเปิดตู้เซฟนิรภัยออกมาได้ ปรากฏว่าภายในตู้เซฟดังกล่าวเต็มไปด้วยปูนซีเมนต์ คาดว่าคนร้ายเทปูนหล่อไว้ แล้วนำมาทิ้งที่เกิดเหตุ จนมีคนไปพบและแจ้งตำรวจนำมาไว้ที่โรงพัก กลายเป็นเรื่องใหญ่โตนำไปสู่การตั้งคณะกรรมเปิดตู้เซฟเพื่อความกระจ่างและ โปร่งใสในที่สุด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนและเสียเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นอย่างมาก ทาง พ.ต.ท.บุญรักษ์ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.เชียงใหม่ ทราบ พร้อมมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาคนที่นำตู้เซฟมาทิ้ง นำตัวมาสอบสวนว่า มีความประสงค์อะไรกันแน่.
ที่มา: http://www.siamupdate.com/news-181870

0 comments:
Post a Comment